ทะเลทรายที่ไกลสุดขอบฟ้า ที่ผู้แข่งขันต้องเดินฝ่าความกลัวไปด้วยความกล้าเท่านั้น
ไมล์ จับคู่กับเจฟฟรีย์ พี่ชายของเขาเข้าร่วมรายการนี้ แต่แล้วก็เกิดอุปสรรคตั้งแต่ยังไม่เริ่มการวิ่งแม้แต่ก้าวเดียว
เพราะเขาบังเอิญหยิบยาผิด เอายาที่ผิดประเภทมาทาที่เท้าทั้งสองข้างเมื่อเขาถอดถุงเท้าออกมาในวันรุ่งขึ้น ผิวหนังของเท้าก็ลอกออกมาเป็นแผ่นๆทันที เขาเจ็บที่เท้าเป็นอย่างมากเขาก้าวเท้าเดินแทบไม่ไหว ในขณะเดินไปที่จุดสตาร์ท แต่พี่ชายของเขาได้ให้กำลังใจและบอกกับเขาว่า
ตราบใดที่เรายังหันไปถูกทางทุกๆก้าวมีความหมาย เราต้องเดินก้าวไป ไมล์จึงพยายามฝืนเดินหน้าต่อไป แต่ทุกๆก้าวนั้นยิ่งสร้างความเจ็บปวด จนคณะแพทย์ที่คอยดูแลการแข่งขัน ต้องบอกว่าเขาสมควรจะหยุด ล้มเลิกการแข่งขันได้แล้ว เพราะถ้าฝืนเดินต่อไปเขาอาจจะตายได้ แต่เขาไม่ยอมและยังแสร้งหลอกคณะแพทย์พวกนั้นว่า เขายังไหว หมอนั่นแหละคิดผิด หมอชอบคิดแบบคนตาดีโดยทั่วไปที่ขี้กลัวทุกเรื่อง และที่สำคัญหมอจะมารู้ตัวดีกว่าตัวเขาเองได้อย่างไร
เขาจึงตัดสินใจวิ่งหนีหมอ เขาเริ่มวิ่งเร็วขึ้น เป็นการวิ่งไล่จับของคนตาดีกับคนตาบอด
เป็นการวิ่งไล่จับกันระหว่างความกล้าที่วิ่งนำหน้าความกลัว ในที่สุดเขาก็วิ่งหนีมือหมอพ้น แต่เพราะความรีบ และร้อนรนมากเกินไปที่จะไม่ให้หมอจับตัวได้ ทำให้เขาสะดุดกับก้อนหินใหญ่ก้อนนึง ผลของมันก็คือสะบ้า หัวเข่าของไมล์ ฉีก และเลือดอาบเต็มหน้า
แต่ไมล์ ยังไม่ยอมแพ้ เมื่อเขาวิ่งต่อไปไม่ไหว เขาก็ก้มลงคลาน คลานทีละคืบทีละคืบ มีหลายคนวิ่งผ่านไปในขณะที่เขาก้มลงคลานอยู่ แต่เขาก็ไม่เคยสนใจเหมือนกับการแข่งขัน เพื่อถึงจุดเป้าหมายของชีวิต หลายคนวิ่งแบบสบาย หลายคนล้มเลิกลงกลางคันหลายคนวิ่งผิดเส้นทาง และหลายคนต้องใช้หลายสิ่งหลายอย่าง ผสมปนเปกันไป หรือแม้แต่คลาน
และในที่สุดเขาก็ถึงเส้นชัย ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของคนที่เฝ้าดู ร้อยละ 90 เปอร์เซ็นต์ หรือจะเรียกว่าจับตาดูก็ได้ว่า เขาสองคนพี่น้องตาบอด จะคลานข้ามเส้นชัยได้หรือไม่ เขาเข้าทีหลังคนเข้าที่หนึ่งหลายร้อยคน แต่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไรของคนที่เฝ้าดู พวกเขาล้วนชื่นชมความแข็งแกร่งของหัวใจ ของคนทั้งคู่มากกว่าในการแข่งขันครั้งนั้น เขาเรียนรู้ว่า ไม่ว่าสถาณการณ์ข้างหน้าจะเลวร้ายแค่ไหน ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาตัดสินใจพลาดจงเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ จงฝันแล้วจงฝันๆๆลงมือและก็ลงมือ วางแผนแล้วก็อดทนแล้วเขาจะทำสำเร็จในทุกเรื่อง
หลังจากนั้น เขายังทำเรื่องที่ท้าทายเหนือชั้นขึ้นไปอีก เขาตัดสินใจจะไปปินยอดเขาเอเวอร์เรต ในการคิดใหญ่ขนาดนี้เขาต้องการคนช่วยฝึกและนำทาง เขาจึงพยายามเสาะหาดั้นด้นหา ผู้เชี่ยวชาญและในที่สุดเขาก็พบคนคนนั้น และโทรศัพท์ไปพูดคุยและนี่คือบทสนทนาในวันนั้น